ทัชมาฮาล สถานที่แห่งนี้คือ สุสานอันทำมาจากหินอ่อนที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้คนส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นจากความความรักอันสวยที่สุดในโลก ทัชมาฮาล  สร้างขึ้นจากคำสั่งของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล ชายผู้มีรักอันหนักแน่นต่อพระมเหสีของพระองค์  เจ้าชาย Khurram  ชึ่งต่อมาเขาได้กลายเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ พระองค์เสด็จพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1592  ตำนานอันเก่าแก่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระองค์ได้พบกับ ลูกสาวของรัฐมนตรี ตอนนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงรักนางจากก้นบึ้งของหัวใจ เจ้าชาย Khurram  จึงซื้อเพชรราคา 10,000 รูปีและได้ไปบอกกล่าวกับพระบิดาของพระองค์ว่า พระองค์มีความประสงค์จะแต่งงานกับบุตรสาวของรัฐมนตรี หลังจากนั้น 5 ปีต่อมาพิธีเสกสมรสก็ถูกจัดขึ้น ในปี ค.ศ. 1612 ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งสองก็ไม่เคยอยู่ห่างกายกันอีกเลย

หลังจากเจ้าชาย Khurram  ได้กลายมาเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ  ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1628 พระองค์ทรงมอบความไว้วางใจเป็นอย่างสูงให้แก่พระมเหสีของพระองค์ และเรียกขานนางด้วยชื่อใหม่ว่า Mumtaz Mahal แปลว่า อัญมณีแห่งราชวัง

พระมเหสีติดตามพระองค์ไปทุกหนทุกแห่งแม้แต่ในสนามรบพระนางก็ไม่หวั่นเกรง อีกทั้งยังทรงแนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ จากความดีที่พระนางปฏิบัติจึงทำให้พระองค์รู้สึกเกิดความ ปิติ ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสีอย่างยิ่งยวด แต่พอในปี ค.ศ. 1631  ได้เกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดขึ้น พระมเหสี Mumtaz  สิ้นพระชนม์ ภายหลังจากการให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสี Mumtaz ทำให้สมเด็จพระจักรพรรเกิดความโศกเศร้าอย่างหนักเป็นเวลานานถึงสองทศวรรษ นอกจากนี้ราชสมบัติจำนวนมากก็ใช้ในการสร้างอนุสรณ์แห่งความรัก

พระองค์ถูกขังอยู่นานถึง 8 ปี จนสวรรคตลง ในปี ค.ศ. 1666  ตามตำนานยังกล่าวเพิ่มเติมว่าในวันสุดท้าย พระองค์ใช้เวลาทั้งวันไปกับการมองเศษกระจกซึ่งสะท้อนภาพของทัชมาฮาลราวกับว่ากำลังมองเห็นใบหน้าของมเหสีที่จากไปแล้วบนเศษกระจกนั้น และสิ้นพระชนม์โดยที่เศษกระจกกำลังคาอยู่ในกำมือ พระองค์ถูกฝังอยู่ในทัชมาฮาล อยู่คู่เคียงข้างพระมเหสีสุดรักที่พระองค์ไม่มีวันลืม

สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ณ เมืองอาครา ส่วนที่เป็นหลุมศพสร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ , ศิลาแลง พร้อมทั้งมีการประดับลวดลายอันวิจิตรด้วยเครื่องเพชร , พลอย , และเครื่องประดับอื่นๆจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสวยงามเกินจะหาคำพูดใดๆมาบรรยาย